เทคนิค 7 ประเด็นในก่อนการเลือกซื้อที่ดิน
นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์หลายรายเคยกล่าวไว้ว่า การลงทุนในที่ดิน ถือว่ามีโอกาสในการทำอัตราผลตอบแทน ทำกำไรได้ดีที่สุดในบรรดาการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เพราะราคาที่ดินปรับขึ้นค่อนข้างแรง แต่ก็เป็นการลงทุนที่เสี่ยงที่สุดในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากเป็นวัตถุดิบแรกเริ่มของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภท
.
สำหรับเทคนิคในการลงทุนที่ดิน ขอสรุปเป็นประเด็นใหญ่ๆ 7 ประเด็นด้วยกัน ดังนี้
___________________________________________
ต้องศึกษาผังเมืองก่อนลงทุน
.
ประเด็นนี้เป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ที่คนจะลงทุนในที่ดินควรรู้ เพราะการรู้ผังเมือง ทำให้รู้ประโยชน์การใช้ที่ดินตามกฎหมายในแต่ละแปลง ซึ่งจะทำให้การลงทุนไม่เกิดความผิดพลาด ไม่ใช่ซื้อที่ดินมา เพราะคาดการณ์แล้วว่าจะดี แต่ปรากฏว่า ตามผังเมืองแล้ว ที่ดินแปลงนั้น พัฒนาอะไรแทบไม่ได้เลย หรือประโยชน์ในการใช้ที่ดินน้อยมาก ก็เสี่ยงที่จะขาดทุนมาก
___________________________________________
ศึกษาระบบคมนาคมทุกรูปแบบ
.
ไม่ว่าจะเป็น การตัดถนน ทางด่วน โครงข่ายรถไฟฟ้า ซึ่งจะมี 2 แนวทางด้วยกัน คือ ศึกษาว่ามีบริเวณไหนที่จะมีการเกิดโครงข่ายคมนาคมใหม่ๆ บ้าง แล้วเข้าไปลงทุนในบริเวณนั้น กับ เลือกทำเลที่อยากจะลงทุนแล้ว ศึกษาว่า บริเวณนั้นมีโครงข่ายคมนาคมใหม่ๆ ที่น่าสนใจหรือไม่ ซึ่งทางเลือกแรกจะมีโอกาสในการลงทุนที่ดีกว่า ไปก่อน เสี่ยงก่อน แต่ก็ได้โอกาสก่อน
___________________________________________
โครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐและเอกชนมีผลต่อราคาที่ดิน
.
นอกจากโครงการคมนาคมใหม่ๆ จะเป็นปัจจัยบวกกับการลงทุนในที่ดินแล้ว โครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ หรือภาคเอกชน เช่น สนามบิน ศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ เมืองแห่งศูนย์กลางการท่องเที่ยว เมืองศูนย์กลางอุตสาหกรรม ศูนย์การค้า ฯลฯ ล้วนมีผลต่อราคาที่ดิน ถ้ารู้ อินไซด์ ก่อนว่าที่ดินย่านนั้น ย่านนี้ จะมีโครงการขนาดใหญ่เกิด ไม่ว่าจะของภาครัฐ หรือของภาคเอกชน ก็จะมีประโยชน์ต่อการตัดสินใจลงทุนซื้อที่ดิน แต่ต้องเป็นโครงการที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดแน่ๆ ไม่ใช่โครงการขายฝัน ที่ประเมินแล้วว่า ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ง่ายๆ จึงจะตัดสินใจลงทุน
___________________________________________
ศึกษาแนวเวนคืนทางราชการ
.
กรณีนี้อาจจะศึกษาต่อเนื่องจากประเด็นที่ 2 และประเด็นที่ 3 นั่นคือ เมื่อรู้แล้วว่าจะมีโครงข่ายคมนาคมใหม่ๆ หรือโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ เกิดขึ้นที่บริเวณใด ไม่ใช่แค่รีบไปจับจองพื้นที่ลงทุน แต่ต้องศึกษาก่อนว่า พื้นที่ที่มีการคาดการณ์และพื้นที่ใกล้เคียงโครงการที่คาดว่าภาครัฐจะสร้างนั้น เป็นแนวเวนคืนหรือไม่ หรือมีบริเวณใดบ้างที่อยู่ในแนวเวนคืนที่เราต้องหลีกเลี่ยง ถ้าไม่ศึกษาก่อน อาจจะพลาดได้ ซื้อมาลงทุนแล้ว ปรากฏว่าเป็นแนวเวนคืน ทำอะไรต่อไม่ได้ ขายต่อก็มีแต่ขาดทุน
___________________________________________
เอกสารสิทธิ์
.
ควรตรวจสอบเรื่องเอกสารสิทธิ์ กรรมสิทธิ์ในที่ดินแปลงนั้นๆ โดยเฉพาะที่ดินในต่างจังหวัด ที่ดินมรดก จะมีปัญหามาก เช่น กรณีที่ดินต่างจังหวัดจะมีปัญหาเรื่องไม่มีเอกสารสิทธิ์ตัวจริง จะเสี่ยงมาก ไม่ควรลงทุน เพราะจะเกิดปัญหาในภายหลัง ส่วนที่มรดก จะมีกรณีที่ว่า ผู้มีสิทธิ์ในที่ดินมีหลายคน บางคนอยากขาย บางคนไม่อยากขาย พอเราสนใจ เตรียมซื้อ เตรียมวางเงิน ปรากฏว่า มีเจ้าของกรรมสิทธิ์รายอื่นๆ โผล่ขึ้นมาคัดค้าน ก็เป็นปัญหาที่ยุ่งยาก
___________________________________________
สำรวจความต้องการ
.
อันนี้ก็สำคัญ นอกจากการศึกษาที่ดินที่คาดว่าจะมีศักยภาพในอนาคตจากโครงการต่างๆ ของภาครัฐและเอกชน ต้องศึกษาด้วยว่า บริเวณนั้นๆ มีความต้องการจริงหรือไม่ มีโอกาสในการเกิดการพัฒนาอื่นๆ หรือไม่ เช่นเดียวกับที่ดินบนทำเลที่มีความเป็นชุมชนอยู่ก่อนแล้ว ไม่ได้มีปัจจัยบวกใหม่ๆ ก็ต้องศึกษาความต้องการว่า ทำเลที่ตั้งนั้นๆ ทำอะไรได้บ้าง และมีความต้องการอยู่จริงหรือไม่
___________________________________________
ศึกษาราคาตลาดย่านนั้นๆ
.
อันนี้ก็สำคัญ เมื่อศึกษาประเด็นต่างๆ แล้ว ทั้งเรื่อง ผังเมือง โครงข่ายคมนาคม โครงการขนาดใหญ่ แนวเวนคืน ความต้องการ ก็ต้องศึกษาราคาตลาดด้วยว่า ย่านนั้นๆ เสนอขาย และซื้อขายจริงกันในราคาเท่าไหร่ เพื่อให้เราตั้งราคาขายที่ดินได้ถูกต้อง ไม่ถูกเกินไป จนเสียโอกาสทำกำไรสูงสุด หรือไม่แพงจนเวอร์ ขายไม่ได้
___________________________________________
แหล่งที่มาของบทความ จาก DD Property