3 สัญญาณเตือนบ้านทรุด

บ้านทรุด ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้กับบ้านทุกหลัง โดยมีหลายปัจจัยที่เป็นสาเหตุบ้านทรุด เช่น พื้นที่ตั้งของบ้าน กาลเวลา แรงสั่นสะเทือน ความแข็งแรงของโครงสร้าง และน้ำหนักของตัวบ้าน เจ้าของบ้านจึงต้องเข้าใจสาเหตุเพื่อเตรียมรับมือ และเฝ้าสังเกตสัญญาณต่าง ๆ ที่กำลังบ่งบอกว่าบ้านทรุดเอียง หากพบปัญหาเมื่อไร ก็ต้องรีบแก้ไขโดยด่วน ก่อนปัญหาจะลุกลามจนเกินรับมือ
.
สัญญาณที่บ่งบอกว่าบ้านทรุด
รอยร้าวบนตัวบ้าน
.
รอยร้าวในบ้านมีทั้งแบบอันตรายและไม่อันตราย หากเป็นรอยร้าวแตกลายงาของผิวปูนฉาบและสี ก็ยังพอวางใจได้ แต่ถ้ามีรอยร้าวขนาดใหญ่บนผนังหรือเสา หรือรอยร้าวในลักษณะบ้านทรุดไม่เท่ากัน จนผนังแยกตัวออกจากกันในแนวทแยงมุม รอยร้าวเหล่านี้คือสัญญาณอันตรายที่กำลังบ่งบอกว่าโครงสร้างมีปัญหา
___________________________________________
พื้นดินยุบเป็นโพรง
.
ลองสำรวจพื้นดินรอบ ๆ ผนังบ้าน หากมีพื้นดินที่ยุบตัวจนเห็นโพรงใต้บ้าน ก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าพื้นดินรอบบ้านกำลังทรุดตัว แต่จะกระทบกับตัวบ้านมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับความมั่นคงของเสาเข็ม โดยมักจะมีปัญหากับพื้นปูนที่ไม่มีเสาเข็ม เช่น พื้นที่ซักล้างหลังบ้าน พื้นปูนทางเดินข้างบ้าน หรือพื้นลานจอดรถ นอกจากนี้ ดินที่ยุบเป็นโพรงก็อาจกลายเป็นที่อยู่อาศัยของหนูหรืองูอีกด้วย
___________________________________________
ปัญหาบ้านทรุด ต้องแก้ไขอย่างไร?
1. ติดต่อโครงการขาย
.
ในกรณีที่ซื้อบ้านใหม่ ผู้ขายจะรับประกันโครงสร้างบ้าน คือ หลักประกันความปลอดภัยและคุณภาพของสิ่งปลูกสร้างที่ได้ตกลงทำสัญญาซื้อขายกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
โดยทั่วไปแล้วการประกันบ้านจะมีกำหนดระยะเวลาอย่างน้อย 5 ปี หรือกำหนดระยะเวลาและเงื่อนไขภายใต้กฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งรวมอยู่ในกฎหมายแพ่งและพาณิชย์และพระราชบัญญัติที่ดินที่คุ้มครองอยู่ เมื่อทำสัญญาซื้อขายบ้าน ผู้ขายจะระบุเงื่อนไขต่าง ๆ ไว้อย่างชัดเจน เพื่อรับประกันว่ารับผิดชอบและซ่อมแซมในกรณีที่เกิดความเสียหายในส่วนต่าง ๆ ของบ้าน
หากเจ้าของบ้านไม่ต่อเติมบ้านที่ผิดเงื่อนไขการรับประกัน ก็สามารถเรียกร้องให้ผู้ขายดำเนินการแก้ไขปัญหาบ้านทรุดได้ หากผู้ขายไม่ดำเนินการแก้ไขปัญหา เจ้าของบ้านสามารถแจ้งสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หรือฟ้องศาลแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย หรือฟ้องศาลอาญาเพื่อเอาผิดฐานฉ้อโกงได้
.
2. ปรึกษาวิศวกรก่อสร้าง
.
ในกรณีที่เป็นบ้านเก่าหรือหมดประกันแล้ว หากบ้านทรุดต้องแก้อย่างไรจึงจะถูกต้อง ขอแนะนำว่าอย่าเรียกใช้ช่างก่อสร้างทั่วไปมาซ่อมแซมตามปัญหาที่เห็นจากสายตา แต่ควรติดต่อบริษัทผู้เชี่ยวชาญหรือวิศวกรก่อสร้างให้เข้ามาวิเคราะห์สาเหตุและหาทางแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด ซึ่งอาจต้องขุดพื้นดินเพื่อซ่อมฐานราก หรือใช้เสาดามเพื่อค้ำยันตัวบ้านด้านที่ทรุดเอียง โดยวิธีการซ่อมบ้านทรุดนั้นมีหลายแบบ ขึ้นอยู่กับลักษณะและความรุนแรงของปัญหาที่พบ
.
3. ดีดบ้านเพื่อปรับฐานราก
.
ในกรณีที่พื้นดินทรุดตัวหนักหรือฐานรากเสียหายจนเกินซ่อมแซม ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาบ้านทรุดได้แบบไม่ต้องทุบทิ้ง นั่นก็คือ การดีดบ้าน โดยบ้านจะถูกตัดออกจากฐานรากเดิม แล้วยกขึ้นจนลอยตัวเพื่อรื้อฐานรากใหม่ ก่อนจะประกบตัวบ้านให้ติดกับฐานรากใหม่ แต่การดีดบ้านก็เป็นบริการที่มีราคาแพงมาก บ้านยิ่งใหญ่ ยิ่งหนัก ก็ยิ่งทำได้ยาก และต้องดำเนินการโดยบริษัทผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นจึงจะปลอดภัย
ท้ายที่สุดนี้ เจ้าของบ้านทุกคนก็ทราบแล้วว่า หากบ้านทรุดจะต้องทำอย่างไรได้บ้าง และต้องรีบทำโดยเร็วที่สุด ก่อนปัญหาการทรุดตัวจะบานปลายจนเกินแก้ไข เพราะการซ่อมบ้านทรุดเฉพาะจุดที่มีปัญหานั้นย่อมมีราคาถูกกว่าการรื้อฐานรากใหม่ทั้งบ้านอย่างแน่นอน
___________________________________________
แหล่งที่มาของบทความ จาก DD Property


